วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

๒.๒ สมรรถนะในการทำงาน

สมรรถนะในการทำงาน
                ระบบสมรรถนะในการทำงาน (Competency Model) เป็นเครื่องบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่ผู้บริหารทุกระดับสามารถนำมาใช้ในการสรรหา รักษา และพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้  ทักษะ ความสามารถ และบุคลิกลักษณะเฉพาะตรงตามที่ตำแหน่งกำหนด  เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ตรงตามผลตามที่คาดหวังไว้
                สมรรถนะในการทำงาน (Competency) หมายถึง ความรู้  ทักษะ  และคุณลักษณะ (Knowledge,  Skill, Personal Attribute) ของบุคคลที่จำเป็นต้องมี เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ประสบผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้ เช่น
                (๑) ความรู้ (Knowledge) หมายถึง  ความรู้ที่จำเป็นในการในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้ พนักงานก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบได้อย่างถูกต้อง  ความรู้นี้มักจะได้จากการศึกษา  อบรม  สัมมนา  รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้มีความรู้ในด้านนั้น ๆ
                (๒) ทักษะ (Skill)  หมายถึง ทักษะความสามารถเฉพาะที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่มีทักษะแล้ว  ก็ยากที่จะทำให้พนักงานทำงานให้มีผลงานออกมาดีและตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้  ทักษะนี้มักจะได้มาจากการฝึกฝน  หรือกระทำซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความชำนาญในสิ่งนั้น ๆ
                (๓) คุณลักษณะส่วนบุคคล (Personal Attribute) หมายถึง  คุณลักษณะ  ความคิด  ทัศนคติ ค่านิยม  แรงจูงใจ และความต้องการส่วนตัวของบุคคล คุณลักษณะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาและเปลี่ยนแปลงได้ไม่ง่ายนัก  คุณลักษณะที่ไม่เหมาะสมกับหน้าที่ มักจะก่อให้เกิดปัญหาในการทำงาน และทำให้งานไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย

                 ๒.๓  ขีดความสามารถของสมรรถนะในการทำงาน
                ขีดความสามารถในการทำงาน (Proficiency Level) หมายถึง  ระดับพฤติกรรมที่แสดงออกให้เห็นถึงความสามารถ  ความชำนาญในแต่ละสมรรถนะ  ซึ่งขีดความสามารถของกลุ่มสมรรถนะและหลัก (Core Competency)  กลุ่มสมรรถนะตามบทบาทหน้าที่ (Functional Competency) และกลุ่มความรู้ในงาน (Job Competency) ได้แบ่งออกเป็น ๕ ระดับ ตามระดับความชำนาญ (Expertise) ได้แก่
                ระดับที่ ๑  ขั้นพื้นฐาน (Novice) หมายถึง  ระดับทักษะพื้นฐานที่พนักงานควรมี
                ระดับที่ ๒ ขั้นปฏิบัติงาน (Adequate) หมายถึง  ระดับความสามารถที่พนักงาน จำเป็นต้องมีในการปฏิบัติงานประจำวัน
                ระดับที่ ๓ ขั้นประยุกต์ (Develop) หมายถึง  ระดับที่พนักงานมีความสามารถในการประยุกต์ใช้ทักษะในการปฏิบัติงานที่ตนเองรับผิดชอบได้ดี
                ระดับที่ ๔ ขั้นก้าวหน้า (Advance)  หมายถึง  ระดับที่พนักงานสามารถใช้ทักษะความชำนาญในงานที่ตนเองรับผิดชอบ
                ระดับที่ ๕  ขั้นเชี่ยวชาญ (Expert)  หมายถึง  ระดับที่พนักงานมีความเชี่ยวชาญในการใช้ทักษะนั้น ๆ กับหน้าที่ความรับผิดชอบของตน
                ในส่วนของกลุ่มสมรรถนะด้านการบริหาร (Management Competency) ได้แบ่งออกเป็น  ๕ ระดับ ตามสายของการบังคับบัญชา (Hierarchy) ได้แก่
                ระดับที่ ๑ เจ้าหน้าที่อาวุโสหรือหัวหน้าทีม (Senior Officer / Team Leader) หมายถึง  ขีดความสามารถด้านบริหารจัดการพื้นฐานที่พนักงานในระดับพนักงานอาวุโสต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าทีม
                ระดับที่ ๒ ผู้บริหารระดับต้น (First Line Management) หมายถึง  ขีดความสามารถ ด้านการบริหารจัดการที่พนักงานในกลุ่มผู้บริหารระดับต้น เช่น หัวหน้าหน่วย  ผู้จัดการหน่วย เป็นต้น จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
                ระดับที่ ๓ ผู้บริหารระดับกลาง (Middle Management) หมายถึง  ขีดความสามารถ ด้านการบริหารจัดการที่พนักงานในกลุ่มผู้บริหารระดับกลาง เช่น  ผู้จัดการฝ่าย เป็นต้น จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
                ระดับที่ ๔ ผู้บริหารระดับสูง (Top Management) หมายถึง  ขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการที่พนักงานในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง เช่น ผู้อำนวยการฝ่าย เป็นต้น จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
                ระดับที่ ๕ ผู้บริหารองค์กร (Executive) หมายถึง  ขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการสำหรับผู้บริหารระดับองค์กรจำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น